วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กริยา Go + V-ing (Activity Using Gerund)

Go ตามด้วย gerund ที่ตัวบ่งชี้หมายถึงการดำเนินการกิจกรรมยกตัวอย่างเช่น

1. Did you go shopping yesterday ?
2. I went  swimming  last week.
3. Bob hasn't gone fishing in years.

โดยจะต้องไม่มี to ระหว่าง go และ gerund
Incorrect :Did you go to shopping yesterday ?  ผิด
 
คำทั่วไปที่ต้องเติม ing เมื่อตามหลัง go
go boating      go dancing   go jogging  go (window) shopping   go(water) skilling
go bowling     go fishing     go running  go sightseeing              go skydiving
go camping    go hiking      go sailing    go  (ice) skating            go swimming



วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Vocabulary about Good Luck or Bad Luck

Vocabulary about Good Luck or Bad Luck

      มาท่องคำศัพท์วันละ 10 คำกันเถอะ  วันนี้ผมจะเอาคำศัพท์ที่เกี่ยวกับโชคดี โชคร้าย มา 10 คำนะครับได้แก่

    1.  Approximately  แปลว่าโดยประมาณ
               เช่น  I have approximately $40 in my bank account.
    2.  Rubs  แปลว่า  ถู หรือ นวด
              เช่น She rubs lotion on her hand every day to keep them soft.
    3.  in disguise  แปลว่า เหมือนหรือคล้ายคลึง
              Ex.  I think black cat ware witches in disguise.
    4.  Grave   แปลว่า  หลุมศพ
             เช่น  I going to put flowers  on my brother's  grave every week.
    5.  Superstitions  แปลว่า  ความเชื่อในโชคลาง หรือความเชื่อในเรื่องผีสางเทวดา
            เช่น   A common superstitions in The U.S. is that it's bad luck to walk under a ladder.
    6.  Spit   แปลว่า  ถุยน้ำลาย
            เช่น   Most American think it is rude spit in front of other people.
    7.  Theory แปลว่า ทฤษฎี หรือ สมมุติฐาน
           เช่น   There are a lot of theories about why, but most people thing these beliefs give a person a feeling of control over his or her life.
    8.  Hind  แปลว่า  ส่วนหลังของสัตว์สี่เท้า
           เช่น  It should be the left hind foot,and the rabbit has to be caught in graveyard for the foot to be lucky.
    9.  Cemeteries แปลว่า สุสาน
          เช่น  Another common superstition in that if you whistle near a cemeteries, you will be safe from the ghost inside.
   10.  get out the way  แปลว่า ทำหรืออธิบายบางสิ่งครั้งแรก บ่อยครั้งที่เป็นเรืองแย่หรือเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ
         เชน  On first day of school, the teacher get some basic rules out the way we have to have our books every day, and our cell phones have to be turned off.


       

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

หลักการใช้ Past Simple แตกต่างกันการใช้ Past Continuous Tense อย่างไร เรื่องง่าย ๆ ที่เข้าใจยาก

หลักการใช้ Past Simple แตกต่างกันการใช้ Past Continuous Tense อย่างไร เรื่องง่าย ๆ ที่เข้าใจยาก

        สำหรับผมแล้วการใช้แกรมม่า คือเรื่องยากสำหรับผม  เรื่องการใช้ Past simple และ การใช้  Past Continuous Tense ก็คือเรื่องยากสำหรับผมเรื่องหนึ่งเช่นกัน เนื่องจากไม่รู้ว่าเมื่อไรล่ะที่จะใช้ Simple past หรือ Past Continuous Tense ดังนั้นผมจึงอยากจะมาแชร์วิธีการสังเกตุแบบสรุป ๆ ให้ฟัง ก่อนอื่นก็ขออธิบายก่อนว่าแต่ละ Past มันคืออะไร

Past Simple

        คือประโยคที่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและไม่สนว่าจบลงเมื่อใด(แต่ต้องจบลงในอดีต)


การใช้รูปประโยคคือ S+Verb(ed) or irregular(กริยาสามช่องในรูปของอดีต)

ยกตัวอย่างเช่น  
            
                   She went to the door. ในประโยคนี้ กริยาเป็น Irregular ดังนั้นต้องเปลี่ยนรูปจาก go เป็น went 
             I lived in Bangkok for 10 years. ในประโยคนี้ กริยาเป็นทั่วไป ดังนั้นต้องไม่เปลี่ยนรูปแต่เติม ed ดังนั้นจาก live เปลี่ยนเป็น lived. 


Past Simple

        คือประโยคที่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต แล้วต้องจบลงในอดีต


การใช้รูปประโยคคือ S+was/were+ Verb(-ing)(กริยา+ing)

ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและมีเหตุการณ์อีกอย่างหนึ่งที่ใช้เวลาสั้นกว่าเกิดขึ้นขัดจังหวะ เช่น คนกำลังกินข้าว และมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คนกำลังกินข้าว เป็นเหตุการที่กำลังเกิดขึ้นก่อนแล้ว และกำลังดำเนินอยู่ แต่ขณะกำลังดำเนินอยู่นั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นแล้วในอดีต จะใช้เป็น Past Continuous Tense และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาขัดจังหวะ จะใช้เป็น Past Simple Tense
ดังนั้นจึงเขียนได้ว่า 
                                      I was eating,when a telephone rang.

คราวนี้มาเข้าสู่เทคนิคการสังเกตุกัน

เทคนิคแรก

ประโยคที่อยู่หลัง while, as  (ขณะที่)   ใช้ Past Continuous Tense
ประโยคที่อยู่หลัง when  (เมื่อ, ตอนที่) ใช้ Past Simple
  • was having dinner when the phone rang.
    ฉันกำลังกินข้าว ตอนที่โทรศัพท์ดัง
  • While I was having dinner, the phone rang.
    ขณะที่ฉันกำลังกินข้าว โทรศัพท์ก็ดัง
  • When the police arrived, we were sleeping.
    เมื่อตำรวจมาถึง พวกเรากำลังนอนหลับ
  • The police arrived as we were sleeping.
    ตำรวจมาถึง ขณะที่พวกเรากำลังนอนหลับ
  • As we were walking to school, we saw a big elephant.
    ขณะที่พวกเรากำลังเดินไปโรงเรียน พวเราเห็นช้างตัวใหญ่
  • We were walking to school when we saw a big elephant.
    พวกเรากำลังเดินไปโรงเรียน ตอนที่พวเราเห็นช้างตัวใหญ่

เทคนิคที่ 2

  • คำกริยาที่นำมาใช้กับ Past Continuous Tense ต้องเป็นกริยาที่สามารถแสดงการกระทำได้นาน จากตัวอย่างด้านบนระหว่าง นอน กับ มาถึง อะไรทำได้นานกว่ากัน ถูกต้อง นอนเป็นสิบชั่วโมงยังได้เลย  คำกริยาที่สามารถทำได้นาน และเห็นมาออกข้อสอบบ่อยๆ เช่น
    do, drive, eat, have, read, sing, sit, sleep, swim, teach, write, clean, cook, cry, dance, play, rain, walk, wash, watch
  • คำกริยาที่นำมาใช้กับ Past Simple  ส่วนใหญ่เป็นกริยาที่เกิดขึ้นแป๊บเดียว ไม่สามารถทำได้นาน จากตัวอย่างด้านบนระหว่าง นอน กับ มาถึง อะไรทำได้นานกว่ากัน ถูกต้อง มาถึง มันเกิดแค่แป๊บเดียว  คำกริยาที่ไม่สามารถทำได้นาน เช่น take,  start, arrive, see, hear, smell, hit, come, ring, cut (กริยา 3 ช่อง คลิกที่นี่)
    • was having dinner when the phone rang.
      ฉันกำลังกินข้าวเย็น ตอนที่โทรศัพท์ดัง
    • When the police  arrived, we were sleeping.
      เมื่อตำรวจมาถึง พวกเรากำลังนอนหลับ
    • As we were walking to school, we saw a big elephant.
      ขณะที่พวกเรากำลังเดินไปโรงเรียน พวเราเห็นช้างตัวใหญ่
    • While they were reading, they heard a bird singing in the tree.
      ขณะที่พวกเขากำลังอ่านหนังสือ พวกเขาได้ยินนกร้องเพลงอยู่บนต้นไม้
    • She was swimming when the shark came.หล่อนกำลังว่ายน้ำอยู่ เมื่อตอนที่ฉลามมา
    • We were washing the car when it started to rain.
      พวกเรากำลังล้างรถอยู่ ตอนที่ฝนเริ่มตก
    • She took my book as I was playing football.
      หล่อนเอาหนังสือฉันไป ขณะที่ฉันกำลังเล่นฟุตบอล
    • A car hit the dog while it was running on the road.
      รถยนต์คันหนึ่งชนหมา ขณะที่มันกำลังวิ่งบนถนน
    • My mom cut her finger while she was cooking.
      แม่ของฉันทำมีดบาดนิ้ว ขณะที่หล่อนกำลังทำอาหาร 
เทคนิคการจำดี ๆ เครดิตจาก (ภาษาอังกฤษอนนไลน์.com)

ในเมื่อเราจำได้แล้ว ลองมาทำแบบทดสอบดูครับ ผมขอเน้นว่าต้องลองฝึกครับอ่านอย่างเดียวรับรองไม่เข้าใจแน่นอน  คลิ๊กที่นี่ครับ 

           


      

       
       เลือกเรียนภาษาอังกฤษ ESL Language in Los Angeles เลือกเรียนที่ Hollywood College ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557

American Pronunciation มาฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้องกันเถอะ

มาฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้องกันเถอะ

     ตอนมาเรียนที่อเมริกาตอนแรก ๆ ผมรู้สึกว่ามีปัญหาเรื่องการการสื่อสารกับฝรั่งเป็นอย่างมาก หลังจากการอยู่มาหลายเดือนทำให้ผมสรุปได้ว่า สาเหตุที่แท้จริง ที่ผมไม่เข้าใจว่าฝรั่งพูดว่าอะไร เนื่องจากการออกเสียงของผมนั้นยังไม่ถูกเป็นอย่างมาก ดังนั้นผมจึงอยากจะทำสรุปเกี่ยวกับการออกเสียงที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้สนใจอยากฟังพูดว่าอะไร ฟังแล้วเข้าใจดีขึ้นเหมือนผมบ้าง

วันนี้ ตอนแรกขอเสนอคำศัพท์ที่ผมอ่านผิดแบบคนละเรื่องคือ

                                                       
คำว่า Valley คำนี้คนไทยส่วนใหญ่จะอ่านออกเสียงว่า วัลเลย์  แต่ จริงๆ ที่ถูกคือ แวลลีย์(เวลาพูดให้งอลิ้นแล้วลงท้ายเอาลิ้นไปแตะฟันบน) 

เรื่องการออกเสียงลดรูปของ -ing
1. I 'm trying to finish my homework
  ปกติ เราจะอ่านว่า อาร์ม ทะรายอิ่ง ทู ฟินิช มาย จ๊อบ
  แต่ที่ถูกต้องคือ อาร์ม ทรายอิน ทู ฟินิช มาย จ๊อบ
ให้ออกเสียง trying เพียงแค่ครึ่งเสียง เป็น tryin


2. I 'm fixing my car
   ปกติ เราจะอ่านว่า อาร์ม ฟิกซิ่ง มาย คาร์
  แต่ที่ถูกต้องคือ อาร์ม ฟิกซิ่น มาย คาร์
ให้ออกเสียง fixing เพียงแค่ครึ่งเสียง เป็น fixin

3. She's working in her garden
  ปกติ เราจะอ่านว่า ชีสส เวิคกิ้ง อิน เฮอ คาร์เด้น
  แต่ที่ถูกต้องคือ ชีสส เวิคกิ้น อิน เฮอ คาร์เด้น
ให้ออกเสียง working  เพียงแค่ครึ่งเสียง เป็น workin    

4. We're going to the movies.
   ปกติ เราจะอ่านว่า เวอร์ โกอิ้ง ทู เดอะ มูวีสส
  แต่ที่ถูกต้องคือ เวอร์ โกอิ้น ทู เดอะ มูวีสส
ให้ออกเสียง working  เพียงแค่ครึ่งเสียง เป็น workin